พฤติกรรมนี้จะเกิดขึ้นช้าๆ
มองไม่เห็นชัดเจน
เช่น การหุบการบานของดอกไม้ซึ่งเกิดจากการกระตุ้นของแสง
เราจะสังเกตได้ทั่วๆไป
เช่น ดอกบัวจะหุบในตอนกลางคืน
และจะบานในตอนกลางวันการเคลื่อนไหวแบบ
นี้จะไม่ขึ้นกับทิศทางของแสงไม่ว่าจะมาในทิศทางใดก็ทำให้ดอกบานได้เหมือนๆกัน
หรือการหุบบานของดอกไม้
ซึ่งเกิดจาก
้การกระตุ้นของอุณหภูมิที่เปลี่ยนไป
เช่น ดอกราตรี
ดอกสายหยุด ้จะอาศัยอุณหภูมิเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการหุบและบานของดอกไม้โดยดอกจะบานเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น
และจะหุบเมื่ออุณหภูมิต่ำลง
เรียกการเคลื่อนไหวแบบนี้ว่า
การเคลื่อนไหวของพืชที่ตอบสนองต่อสิ่งเร้าโดยมีทิศทางที่ไม่สัมพันธ์กับทิศทางของสิ่งเร้า
นอกจากนี้ พืชยังมีการเคลื่อนไหวที่ตอบสนองต่อการเจริญเติบโตโดยส่วนของพืชจะเคลื่อนไหวเข้าหาสิ่งเร้า
และหนีในทิศทางตรงกันข้ามกับสิ่งเร้า เรียกการเคลื่อนไหวแบบนี้ว่า การเคลื่อนไหวของพืชที่ตอบสนองต่อสิ่งเร้าโดยมีทิศทางสัมพันธ์กับทิศทางของสิ่งเร้า(Troic
Movement)
การเคลื่อนไหวแบบนี้มีหลายแบบตามลักษณะของสิ่งเร้า
เช่น การเจริญของรากเข้าหาแรงโน้มถ่วงของโลก และการเจริญของยอดหนีแรงโน้มถ่วงของโลก
เป็นการตอบสนองที่เกิดจากแสงเป็นสิ่งเร้า เป็นต้น
นักเรียนสามารถศึกษาพฤติกรรามการเอนเข้าหาแสงสว่างของพืช
โดยมีแสงเป็นสิ่งเร้าได้จากกิจกรรมต่อไปนี้