ยาเสพติดที่แพร่ระบาดในประเทศไทย
  กัญชา เป็นสิ่งเสพติดชนิดออกฤทธิ์ผสมกัน (Mixed) จะออกฤทธิ์ทั้งกดประสาท กระตุ้นประสาท และหลอนประสาท
  กัญชาเป็นพืชล้มลุก ใบเรียวยาว แตกเป็นแฉกๆน้ำมันซึ่งอยู่ในดอกและใบของกัญชาเป็นสารที่ทำให้เสพติด
   ผู้เสพในระยะแรกๆจะมีอาการร่าเริง ตื่นเต้น หัวเราะง่าย ต่อมาจะง่วงซึม เห็นภาพลวงตา หวาดระแวง สมองมึนงง ถ้าใช้กัญชาเป็นเวลานานจะทำให้ร่างกาย เกิดการต้าน และต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆกัญชาเข้าสู่ร่างกายโดยการสุบ ผู้เสพจะเกิดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้


         
โทษที่ได้รับ:

1.   ทำลายสมรรถภาพทางกาย ผู้เสพกัญชาในปริมาณมาก เป็นระยะเวลานานๆ จะทำให้ร่างกายเสื่อมโทรม
2.   ทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย การเสพติดกัญชามีผลร้ายคล้ายกับการติดเชื้อเอดส์ ( HIV) กล่าวคือ กัญชาจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานเสื่อมลงหรือบกพร่อง ร่างกายจะอ่อนแอและติดเชื้อโรคต่างๆ ได้ง่าย
3.   ทำลายสมอง การเสพกัญชาแม้เพียงในระยะสั้น ทำให้ผู้เสพบางรายสูญเสียความทรงจำ
4.   ทำให้เกิดมะเร็งปอด เนื่องจากผู้เสพจะอัดควันกัญชาเข้าไปในปอดลึกนานหลายวินาที การสูบบุหรี่ยัดไส้กัญชาเพียง 4 มวน ซึ่งเท่ากับการสูบบุหรี่ 1 ซอง หรือ 20 มวน
5.   ทำร้ายทารกในครรภ์ กัญชาจะทำลายโครโมโซม ฉะนั้นหญิงที่เสพกัญชาในระยะตั้งครรภ์ ทารกที่เกิดมาจะพิการมีความผิดปกติทางร่างกาย
6.   ทำลายความรู้สึกทางเพศ กัญชาจะทำให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในชายลดลง
7.   ทำลายสุขภาพจิต ฤทธิ์ของกัญชาจะทำให้ผู้เสพมีอาการเลื่อนลอย ฝันเฟื่อง ความคิดสับสนและมีอาการประสาทหลอนจนควบคุมตนเองไม่ได้

นอกจากผลร้ายที่มีต่อร่างกายและจิตใจของผู้เสพแล้ว การขับรถขณะเมากัญชายังก่อให้เกิดอันตรายได้มาก เพราะฤทธิ์ของกัญชาจะทำให้เสียสมาธิ ทำให้การตัดสินใจผิดพลาด การตอบสนองช้าลง การรับรู้ทางสายตาบิดเบือน ความสามารถในการมองเห็นส่งเคลื่อนที่ด้อยลง จึงเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อผู้ขับรถยนต์หรือแม้แต่เดินบนท้องถนนก็ตาม